โหลด Youtube Go
เป็นธุรกิจที่กิจการเข้มแข็ง ไม่ล้มง่ายๆ เมื่อเจอวิกฤติเศรษฐกิจ 2. เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตของรายได้และกำไรดี 3. เป็นธุรกิจเจ้าใหญ่ในอุตสาหกรรมนั้นๆ Market Share มีแนวโน้มสูงขึ้น 4. เป็นธุรกิจทีมีสินค้าหรือบริการอยู่ใน Mega trend มีโอกาสขายตัวได้สูง 4. "ออมหุ้น" เดือนละเท่านี้ กี่ปี? จะมี "เงินล้าน" จะเห็นว่าการทำ DCA เป็นการลงทุนที่ไม่ซับซ้อน เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ และหากเรามีวินัยที่มั่นคง และเลือกหุ้นที่สามารถสร้างผลตอบที่ระยะยาวที่มั่นคง ก็จะสามารถเปลี่ยนเงินลงทุน "หลักพัน" งอกเงยกลายเป็นเงินออม "หลักล้าน" ในพอร์ตได้อย่างแน่นอน สำหรับใครที่อยากเปิดพอร์ตออมหุ้น แต่ยังไม่รู้จะเปิดที่ไหนดี? สามารถไปปรึกษาตัวจริงของการออมหุ้น กับ "บล. Zcom" โบรกเกอร์ยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น ที่มีทุนจดทะเบียนถึง 1, 500 ล้านบาท โดยตอนนี้มีข้อเสนอสุดพิเศษดังนี้ ทุกคนสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์แบบ "Self-service" โดยซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยตนเองผ่านโปรแกรม SETTRADE Streaming หมดปัญหามีคนโทรตื้อ โทรมาชวนซื้อๆ ขายๆ ให้กวนใจ อีกทั้งค่าคอมมิชชันซื้อขายอยู่ที่ 0. 065% ถามว่าถูกขนาดไหน คำตอบคือ เทรด 10, 000 บาท จ่ายค่าคอมแค่ 6.
ปัจจุบันนี้มีผู้ให้บริการด้านการลงทุน CFD ค่อนข้างมาก แต่ผู้เขียนขอเสนอโบรกเกอร์ CFD ที่มีความน่าเชื่อถือสูงและได้รับความนิยมในวงการนักลงทุนไทย - MiTrade นะครับ ※ ขั้นตอนการเทรดหุ้น CFD กับ MiTrade ※ 1. เปิดบัญชี การเปิดบัญชีกับ Mitrade จะง่ายและไวมาก ทำออนไหลน์ได้หมดภายในไม่กี่นาที ขอแค่มีบัตรประชาชน บัตรธนาคารก็พอ สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ MiTrade มีบัญชีเทรดทดลองพร้อมเงินเสมือน 50, 000 USD อยู่ในบัญชีเพื่อให้เทรดเดอร์ฝึกฝนทักษะการเทรดอย่างไม่มีความเสี่ยงใดๆ 2. ฝากเงินเข้าบัญชี ที่ Mitrade เทรดเดอร์สามารถฝากเงินเข้าบัญชีผ่านช่องทางหลากหลาย รวมถึงธนาคารไทยออนไลน์ด้วย 3. ค้นหาหุ้นที่จะเทรด ตอนนี้ Mitrade ได้เปิดให้นักลงทุนสามารถเทรดหุ้นของบริษัทยักษัใหญ่ได้ รวมถึง Facebook, Google, Apple, Amazon, Adobe, Walt Disney, Microsoft, Walmart และ Alibaba เป็นต้นและจะเปิดให้มากขึ้นอีกต่อไป 4. คว้าโอกาสในการเทรด เมื่อฝากเงินเรียบร้อยแล้วเราก็คว้าโอกาสการเทรดหุ้นด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่ Mitrade เสนอให้ใช้ฟรี เช่นขาวสด กราฟแบบเรียลไทม์ ปฏิทินทางเศรษฐกิจ ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวม การคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญเป็นต้น 5.
16 ล้านบาท! และในปีสุดท้ายเราจะได้เงินปันผลราว 4. 65 หมื่นบาทต่อปี หรือเท่ากับได้เดือนละ 3. 87 พันบาท แบบไม่ต้องทำงาน ซึ่งถือเป็น Passive Income ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ... การซื้อหุ้นเฉลี่ยทุกเดือนแบบ DCA จะเห็นว่า มันจะได้ผลดีที่สุดก็ต่อเมื่อเราซื้อหุ้นเติบโต ส่วนหุ้นปันผล และหุ้นวัฏจักร ได้ผลไม่ดีนัก แต่ข้อดีของการ DCA ในหุ้นปันผลก็คือ เราจะได้เงินปันผลค่อนข้างมาก โดยเฉลี่ยแล้วใน 9 ปี เราได้เงินปันผลถึง 3. 6 แสนบาท ในขณะที่หุ้นเติบโตให้เงินปันผลใน 9 ปี ราว 3. 39 บาท (น้อยกว่าไม่มาก) และหุ้นที่เราไม่ควรทำ DCA มากที่สุดก็คือ หุ้นวัฏจักร นั่นเอง... ลองไปปรับใช้กันดูนะครับ สนับสนุนบทความโดย #นายแว่นลงทุน
KKP – Kiatnakin Bank Public Company Limited 3. MINT – Minor International Public Company Limited 4. AOT – Airports of Thailand Public Company Limited 5. LH – Land and Houses Public Company Limited 6. ADVANC – Advanced Info Service Public Company Limited 7. CPN – Central Pattana Public Company Limited การออมลงทุนในหุ้นสามารถให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกับการออมในบัญชีเงินฝากอย่างไร? ลองดูความแตกต่างจากการลงทุนเป็นเวลา 10 ปี ได้ที่ >>> ออมในหุ้น vs ออมในบัญชีออมทรัพย์ 10 ปี Source: set-invest-now
06 ล้านบาท! และในปีสุดท้ายเราจะได้เงินปันผลราว 9. 1 หมื่นบาทต่อปี หรือเท่ากับได้เดือนละ 7.