โหลด Youtube Go
เพลงพื้นบ้านภาคกลาง ๒. เพลงพื้นบ้านภาคเหนือ ๓. เพลงพื้นบ้านภาคอีสาน ๔. เพลงพื้นบ้านภาคใต้ เพลงพื้นบ้านภาคกลาง เพลงพื้นบ้านภาคกลางส่วนใหญ่เป็นเพลงโต้ตอบหรือเพลงปฏิพากย์ เป็นเพลงที่หนุ่มสาวใช้ร้องโต้ตอบเกี้ยวพาราสีกัน มักร้องกันเป็นกลุ่มหรือเป็นวง ประกอบด้วย ผู้ร้องนำเพลงฝ่ายชายและฝ่ายหญิงที่เรียกว่า พ่อเพลง แม่เพลง ส่วนคนอื่นๆ เป็นลูกคู่ร้องรับ ให้จังหวะด้วยการปรบมือ หรือใช้เครื่องดนตรีประกอบจังหวะ เช่น กรับ ฉิ่ง เพลงโต้ตอบนี้ ชาวบ้านภาคกลางนำมาร้องเล่นในโอกาสต่างๆ ตามเทศกาล หรือในเวลาที่มารวมกลุ่มกัน เพื่อทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือบางเพลงก็ใช้ร้องเล่นไม่จำกัดเทศกาล แบ่งได้ ๕ กลุ่ม คือ ๑. เพลงที่นิยมร้องเล่นในฤดูน้ำหลาก เทศกาลกฐินและผ้าป่า ในช่วงเทศกาลออกพรรษา ได้แก่ เพลงเรือ (ร้องกันทั่วไปในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี) เพลงครึ่งท่อน เพลงไก่ป่า (ปรากฏชื่อในหนังสือเก่าก่อนสมัยรัชกาลที่ ๕ ว่าร้องอยู่แถบพระนครศรีอยุธยา) เพลงหน้าใย เพลงยิ้มใย เพลงโซ้ (นครนายก) เพลงรำพาข้าวสาร (ปทุมธานี) เพลงร่อยภาษา (กาญจนบุรี) ๒. เพลงที่นิยมเล่นในเทศกาลเก็บเกี่ยว เป็นเพลงที่ร้องเล่นในเวลาลงแขกเกี่ยวข้าว และนวดข้าว ได้แก่ เพลงเกี่ยวข้าว เพลงก้ม (อ่างทอง สุพรรณบุรี) เพลงเต้นกำ (อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา) เพลงเต้นกำรำเคียว (นครสวรรค์) เพลงจาก (อ.
เป็นการบรรเลงที่ใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้าน และมีจำนวนน้อยชิ้น 2. จังหวะทำนองเป็นแบบง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน 3. เนื้อร้องเป็นภาษาพื้นบ้าน ไม่ยาวมาก 4. ได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษรุ่นต่อรุ่น ดนตรีพื้นบ้านแต่ละท้องถิ่นจะมีลักษณะเฉพาะ มีความแตกต่างกันไป ตามสภาพวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของคนในแต่ละท้องถิ่น ซึ่งสามารถแบ่งออกตามภูมิภาคต่าง ๆ ดังนี้ 1. ดนตรีพื้นบ้านภาคเหนือ 2. ดนตรีพื้นบ้านภาคอีสาน 3. ดนตรีพื้นบ้านภาคกลาง 4. ดนตรีพื้นบ้านภาคใต้ ดนตรี ล้านนา
๑. เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมา วิวัฒนาการของดนตรีไทยในยุคสมัยต่างๆ ๒. เพื่อรวบรวมและเผยแพร่สารสนเทศเกี่ยวกับดนตรีไทยและดนตรีพื้นบ้าน ๓. เพื่อให้เห็นคุณค่าและตระหนักถึงความสำคัญของดนตรีไทยและดนตรีพื้นบ้าน และเป็นแนวทางในการอนุรักษ์ ส่งเสริมดนตรีไทยสืบไป ๔. เพื่อศึกษาแนวโน้มและทิศทาง ทัศนคติเกี่ยวกับดนตรีไทย และดนตรีพื้นบ้านในปัจจุบัน ๕. เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ดนตรีไทยให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนา
1. ได้ฝึกสมาธิ ช่วยให้เป็นคนรอบคอบ 2. ช่วยให้เป็นคนใจเย็นและมีระเบียบวินัยในตนเอง 3. รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทยให้คงอยู่ต่อคนรุ่นหลังและตลอดไป 4. สนุกสนานและคลายเครียด 5. ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 6. เสียงดนตรีเป็นสิ่งที่กล่อมหัวใจของคนให้อ่อนโยน เยือกเย็นดับทุกข์ได้ชั่วขณะ ปลุกใจให้รื่นเริงกล้าหาญ สิ่งเหล่านี้ย่อมเกิดแก่บุคคลผู้ฟังทั่วๆไป 7. เป็นเครื่องที่ทำให้โลกครึกครื้น 8. การแสดงมหรสพต่างๆ เป็นต้นว่า โขนละคร ดนตรีก็เป็นผู้ประกอบให้น่าดูสนุกสนานขึ้นสมอารมณ์ผู้ดูและผู้แสดง 9. ทำความสมบูรณ์ให้แก่ฤกษ์และพิธีต่างๆ ทั้งของประชาชนและของชาติ 10. เป็นเครื่องประกอบในการสงคราม ซึ่งเคยใช้ได้ผลมาแล้วหลายชาติ กล่าวโดยเฉพาะชาติไทยคราวสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เมื่อยังดำรงพระยศเป็นเจ้าพระยาจักรีทรงรักษาเมืองพิษณุโลกต่อสู้ อะแซหวุ่นกี้ ก็ได้ทรงใช้ดนตรีเป็นเครื่องประกอบอุบาย เป็นต้น 11. ทำให้โลกเห็นว่าชาติไทยมีวัฒนธรรมเป็นอันดี ชาติใดที่มีวัฒนธรรมของตนอยู่อย่างดีย่อมเป็นที่ยกย่องของชาติทั้งหลาย
เพลงจังหวะตะลุง #ดนตรีไทยพื้นบ้านภาคใต้ - YouTube
11 ม. ค.